Antifragile
แข็งแกร่ง ยืดหยุ่น เรียนรู้ และปรับปรุง
A – Antifragile
Antifragile คือคำที่ตรงข้าม กับคำว่า fragile
ที่แปลว่า เปราะบาง
คำว่า antifragile หมายถึงมากกว่าเพียงคำตรงข้ามกับคำว่าเปราะบาง ซึ่งคือแข็งแกร่งเท่านั้น
แต่ยังหมายถึงหยืดหยุ่น เรียนรู้ และปรับปรุง
-
ไข่ไก่
ไข่ไก่ในที่นี้ชัดเจน ว่าเป็นของที่ fragile คือ เป็นสิ่งที่เปราะบาง แตกหักได้ง่าย โดนกระทบกระทั่งเพียงนิดเดียว ก็ พังทลาย ไม่สามารถ พัฒนาต่อไปได้ กรณีนี้ไข่ไก่ เปรียบเหมือนคนที่ยอมแพ้ แม้สถานการณ์ยังสามารถต่อสู้และพัฒนาต่อไปได้ เป็น ประเภทที่ว่า อะไรกระทบกระทั่งหน่อยก็ไม่ได้ และไม่สามารถเรียนรู้อะไรเพิ่มเติมจากมันได้เลย
ผมขอยกตัวอย่างพนักงานท่านหนึ่งที่เคยทำงานกับเรา ทำงานกับเราด้วยความมุมานะ มาตลอด 10 เดือน แต่เขาได้ทำผิดพลาดครั้งใหญ่ พนักงานคนนั้นรับไม่ได้ผลงานกับตนเอง วันรุ่งขึ้นจึงตัดสินใจทิ้งงานทั้งหมด และลาออกจากบริษัทในทันที
แบบนี้คือ ไม่ได้เรียนรู้ เปราะบาง และไม่สู้ที่จะพัฒนาตัวเองต่อไปเลย
2. ลูกปิงปอง
ลูกปิงปอง เป็น สิ่งของที่ ไม่ได้เปราะบาง ไม่พังง่าย ๆ แต่ก็สามารถบุบได้เหมือนกัน เปรียบเหมือนคนที่ อดทนต่อสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้ แต่ลูกปิงปอง ยังมีข้อเสียที่ไม่สามารถปรับตัว หากเกิดสถานการณ์วิกฤต เช่นรถบรรทุก ทับลูกปิงปอง ลูกปิงปองจะพังทลายในทันที แม้จะเป็นสิ่งของที่ทนทาน ไม่เปราะบาง แต่ก็ยังไม่ถือเป็น Antifragile เพราะไม่ยืดหยุ่นไม่ปรับตัว ลูกปิงปองไม่ได้เรียนรู้อะไร จากการที่อดทนเลย ยังคงเป็นรูปปิงปองที่เหมือนเดิมวันยังค่ำ
พนักงานที่ยกตัวอย่าง คนนี้ เป็นคนที่ทำงานผิดพลาดเยอะมากๆ ในบริษัท และส่งผลกระทบกับการทำงานหลายส่วนขององค์กร แต่องค์กรของเราเลือกที่จะฟีดแบคเขาอย่างตรงไปตรงมา เขารับได้ในทุกฟีดแบคที่เรามอบให้ อดทนเหมือนดั่งลูกปิงปอง แต่ไม่เลือกที่จะนำไปปรับใช้ ไม่นำไปพัฒนาต่อ หยุดความสามารถของตัวเองไว้เท่าเดิม จนลงเอยด้วยการต้องเลิกจ้างในที่สุด
3. ลูกบาสเกตบอล
ลูกบาสเกตบอล เป็นสิ่งของที่ ไม่เปราะบาง ไม่พังง่าย ๆ และก็ยังคงยืดหยุ่น พร้อมรับทุกวิกฤตและสถานการณ์
ลูกบาสเกตบอลนั้นยิ่งโดนกระทบกระทั่งมากเท่าไหร่ ลูกบาสจะยิ่งลอยสูงขึ้น สูงขึ้น เรื่อย ๆ นี่คือ นิยามของ Antifragile
คือคนที่ยืดหยุ่น แข็งแกร่ง และพร้อมนำทุกวิกฤตที่เกิดขึ้น มาพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้นไป ทุกครั้งที่ล้ม คือการเรียนรู้ที่จะผลักดันให้เขา พัฒนาไปได้ไกลกว่าเดิมเสมอ…
เราจึงคาดหวังว่า พนักงานของเรา จะพร้อมรับมือกับวิกฤต และมีทัศนคติที่เชื่อว่า ทุกการล้มลง จะพัฒนาไปได้อีกขั้นหนึ่งเสมอ
ขอยกตัวอย่าง พนักงานของเราคนหนึ่ง
พนักงานที่ได้ core value ข้อนี้ไปอย่างน่านับถือ เป็นพนักงานที่เป็นนักศึกษาจบใหม่คนหนึ่ง
ในช่วงวันแรกของการทำงานนั้น ผมสัมผัสได้เลยว่า พนักงานคนนี้แทบไม่มีทางที่จะผ่านงานในช่วงทดลองงานอย่างแน่นอน เพราะ เขายังทำงานได้ไม่ดีอย่างมาก ต่ำกว่ามาตรฐานที่บริษัทคาดหวังไว้
เมื่อถึงวันประเมินครั้งที่ 1 เราจึงได้นำฟีดแบคทั้งหมดพูดคุยกับเขาอย่างเปิดเผย
ในครั้งนั้น ผมฟีดแบคไปอย่างไม่คิดอะไร คิดเพียงแค่ว่า หากต้องแจ้งไม่ผ่านทดลองงาน ก็จะได้เข้าใจเหตุผลอย่างชัดเจน เพราะ ณ ตอนนั้น เขาไม่เหมาะที่จะทำงานที่บริษัทของเราเลย
แต่ตลอดเวลา 3 เดือนในช่วงทดลองงาน เขากลับทำผลงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง
ทุกครั้งที่เขารู้สึกว่าทำงานผิดพลาด หรือไม่ดี จนบริษัทผิดหวัง ทุกคำตำหนิที่เขาได้รับ เขาเลือกที่จะนำมาเป็นแรงผลักดันให้ เขาสามารถเติบโตต่อไปได้ และไม่เพียงแต่การผ่านการทดลองงานในช่วงทดลองงานเท่านั้น แต่เขาก็เป็นคนที่มีผลงานออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่แพ้พนักงานผลงานระดับดีเยี่ยมคนหนึ่งของบริษัทเลย